เรือหลวงสุรินทร์
เรือหลวงสุรินทร์ | |
ประวัติเรือ | ![]() |
---|---|
ต่อที่: | บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด บางรัก กรุงเทพ ฯ |
วางกระดูกงูเรือ: | 30 ตุลาคม พ.ศ. 2529 |
ปล่อยเรือลงน้ำ: | 25 ธันวาคม พ.ศ. 2530 |
ขึ้นระวางประจำการ: | 20 มีนาคม พ.ศ. 2532 |
สถานภาพ: | ประจำการ |
ข้อมูลจำเพาะ | |
ชื่อเรือ: | • ไทย: ร.ล.สุรินทร์ • อังกฤษ: HTMS SURIN |
ผู้บังคับการเรือ: | |
ประเภท: | เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ |
ระวางขับน้ำ: | เต็มที่ 4,245 ตัน |
ความยาว: | รวม 112.48 เมตร |
ความกว้าง: | 15.40 เมตร |
กินน้ำลึก: | 4.14 เมตร |
เครื่องจักร: | เครื่องยนต์ดีเซล |
ความเร็วสูงสุด/ต่ำสุด: | |
รัศมีทำการสูงสุด/ต่ำสุด: | |
กำลังพลประจำการ: | |
อาวุธ: |
เรือหลวงสุรินทร์ (H.T.M.S.SURIN) เป็น เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ สังกัด กองเรือยกพลขึ้นบก กองเรือยุทธการ
[แก้]ข้อมูลทั่วไป
- นามเรียกขานสากล H S Z X (หมายเลขเรือ 722)
- ผู้สร้าง บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด บางรัก กรุงเทพ ฯ
- ประเภทเรือ เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่
- สังกัด กองเรือยกพลขึ้นบก กองเรือยุทธการ
- วางกระดูกงูเมื่อ 30 ต.ค. 2529
- ปล่อยเรือลงน้ำเมื่อ 25 ธ.ค.2530
- รับมอบเมื่อ 16 ธ.ค.2531
- ขึ้นระวางประจำการเมื่อ 20 มี.ค. 2532
- วัสดุสร้างตัวเรือ เหล็กกล้าดีเหนียว
- วัสดุสร้างส่วนประกอบตัวเรือ เหล็ก
คุณลักษณะตัวเรือ[1]
- ระวางขับน้ำ ปกติ 2,982 ตัน เต็มที่ 4,245 ตัน
- ความยาว ตลอดลำ 112.48 เมตร ที่แนวน้ำ 105.0 เมตร
- ความกว้าง มากที่สุด 15.40 เมตร ที่แนวน้ำ 15.40 เมตร
- ความสูง ถึงดาดฟ้าใหญ่ 7.8 เมตร ถึงยอดเสา 21.2 เมตร
- กินน้ำลึก ปกติ หัว 1.35 เมตร ท้าย 1.42 เมตรเต็มที่ หัว 2.06 เมตร ท้าย 4.14 เมตร
อ้างอิง
ตามที่มีการกล่าวถึงเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ของไทย
ที่ตอนนี้มีอยู่ 2 ลำ คือเรือหลวงสีชัง,สุรินทร์
ว่าอยู่ในสภาพทรุดโทรมถึงขนาดที่จะต้องมีการเขื่อม
เหล็กปิดประตูแรมป์หัวเรือ เพื่อความปลอดภัยในการ
เดินเรือ และจะถูกปลดประจำการในเวลาไม่นาน
(ในบอร์ดนี้ก็มีการพูดฯแต่กระทู้ไหนจำไม่ได้)
พอดีได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อน ที่ กฝร.
จึงทราบว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีมูลความจริงใดๆ
ในการฝึกร่วมกับทางสหรัฐฯเร็วนี้
เรือหลวงสุรินทร์ ยังเปิดประตูแรมป์หัวเรือกลางทะเล
ให้รถเอเอวี ขึ้นลง อยู่เลย
และทางกองทัพเรือ จะยังคงบำรุงรักษา/ปรับปรุง
เรือทั้งสองลำ ให้อยู่ในประจำการอย่างน้อยก็ถึงปี
2580 และถ้ามีโอกาส ทร. ก็น่าจะจัดหาเรือประเภทนี้
เพิ่มอีกเพราะนายทหารชั้นผู้ใหญ่หลายท่าน
(ทั้งในและนอกราชการ)เชียร์ให้จัดหาเพิ่ม
เพราะเห็นว่าน่าจะเหมาะสมในภารกิจช่วยผู้ประสบภัยฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น